สร้างคอนเทนต์งานอีเวนต์ให้ทรงพลัง: 3 สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับการเล่าเรื่อง

ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว วิธีที่ผู้คนเสพคอนเทนต์ได้เปลี่ยนไปอย่างมาก นี่หมายความว่าอย่างไรสำหรับมืออาชีพด้านการประชุมและอีเวนต์? คุณน่าจะกำลังเผชิญกับความท้าทายในการดึงดูด (และรักษา) ความสนใจของผู้ชมเพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ

เพื่อรับมือกับอุปสรรคเหล่านี้ มาดูข้อเท็จจริงสำคัญเกี่ยวกับผู้ชมกันก่อน:

• ช่วงความสนใจสั้นลง: ด้วยการแพร่หลายของสมาร์ตโฟน ช่วงความสนใจเฉลี่ยของผู้ใหญ่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด การชวนให้ผู้เข้าร่วมวางโทรศัพท์จึงยากกว่าที่เคย
• ความคาดหวังต่อคุณภาพคอนเทนต์สูงขึ้น: คอนเทนต์ยอดนิยมที่ผู้คนรับชมเป็นประจำนั้นมีคุณค่าการผลิตสูงมาก แม้เพียงตอนเดียว The Crown มีต้นทุนเฉลี่ยราว 13 ล้านดอลลาร์ต่อหนึ่งตอน และซีรีส์ระดับไฮเอนด์อย่าง Stranger Things ก็มีต้นทุนราว 4–7 ล้านดอลลาร์ต่อหนึ่งตอน
• ความคาดหวังต่อคอนเทนต์ที่ย่อยง่ายสูงขึ้น: แพลตฟอร์มอย่าง TikTok นำเสนอคอนเทนต์ที่รวดเร็วและตรงกลุ่มให้ผู้ใช้กว่า 1.67 พันล้านคน จึงยกระดับมาตรฐานการมีส่วนร่วมอย่างมาก ผู้เข้าร่วมที่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีคุ้นชินกับการค้นหา คัดกรอง และโต้ตอบกับสื่อที่ “คัดสรรให้เฉพาะบุคคล” หากต้องการดึงดูด (และรักษา) ความสนใจในโลกดิจิทัลปัจจุบัน คอนเทนต์ของคุณต้องตอบโจทย์ความคาดหวังที่สูงขึ้นนี้

เมื่อพิจารณาผลกระทบของเทรนด์เหล่านี้ การสร้างความบันเทิงและการมีส่วนร่วมจึงยากขึ้น ขณะที่สิ่งรบกวนกลับง่ายขึ้นกว่าเดิม

แล้วควรคำนึงถึงอะไร เพื่อให้คอนเทนต์ของคุณทรงพลังและสร้างอิทธิพลยาวนานต่อผู้เข้าร่วม?

อ่านต่อเพื่อรับอินไซต์ที่จะช่วยให้คุณพลิกโฉมการเล่าเรื่อง

ตัวชี้วัด “การมีส่วนร่วม” สำคัญจริง

ผลสำรวจล่าสุดของ Encore พบว่า นักวางแผนให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของผู้เข้าร่วมและการส่งมอบคอนเทนต์ที่ก้าวหน้า หากต้องการยกระดับกลยุทธ์คอนเทนต์และครองใจผู้ชม ลองพิจารณา 3 แนวทางทรงพลังต่อไปนี้:

1. สร้างชุมชนผ่านคอนเทนต์

ยังจำ “Ice Bucket Challenge” ที่รวมผู้คนไว้ด้วยเป้าหมายเดียวกันได้ไหม? แคมเปญนี้ทำให้ ALS และพันธกิจของมูลนิธิ ALS โดดเด่นในความรับรู้ของชาวอเมริกัน (รวมถึงในโทรศัพท์ของพวกเขา)

คอนเทนต์ที่พัฒนาขึ้นรอบ ๆ แคมเปญโซเชียลนี้ ไม่เพียงสะดุดตา แต่ยังชวนให้เกิดการลงมือทำได้ทันที

การมีส่วนร่วมมีต้นทุนต่ำ ทำได้ง่าย (ยกเว้นช็อตน้ำแข็ง) น่าตื่นเต้น และสำคัญที่สุดคือทำซ้ำได้ ขณะเดียวกัน คำเชิญชวนให้ลงมือทำยังช่วยรวมผู้คนเป็นชุมชนเพื่อเป้าหมายร่วมกัน

2. ใช้การเล่าเรื่องเชื่อมเหตุการณ์ให้เป็นหนึ่งเดียว

คอนเทนต์ของคุณควรถักทอเรื่องเล่าที่น่าดึงดูดตลอดเส้นทางของผู้เข้าร่วม ตั้งแต่การสื่อสารครั้งแรกจนถึงหลังงาน แต่หลีกเลี่ยงคอนเทนต์ที่เพียง “เริ่มและจบ” อยู่แค่นั้น

แม้ว่าคอนเทนต์บนเวทีจะเป็นจุดโฟกัสหลักระหว่างเซสชัน แต่หากต้องการสื่อสารให้เกิดแรงสะท้อนจริง ๆ จงพิจารณาว่าโปรแกรมของคุณเชื่อมโยงกับบทสนทนาที่กว้างกว่าและดำเนินอยู่ภายในชุมชนของผู้ชมอย่างไร

เมื่อออกแบบคอนเทนต์ให้สอดคล้องกับผู้เข้าร่วมและสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว คุณจะยกระดับการประชุมให้เป็น “หนึ่งตอน” ของบทสนทนาที่ยิ่งใหญ่และทรงพลังยิ่งขึ้น

3. ใช้อารมณ์ให้เกิดอิมแพ็กยาวนาน

หลายช่วงเวลาของงานอีเวนต์ที่น่าจดจำมักมาจากอารมณ์ มากกว่าจากเหตุผลล้วน ๆ ลองนึกถึงงานประกาศรางวัลในวัฒนธรรมป๊อปที่คำพูด ปฏิกิริยา และปฏิสัมพันธ์สร้างกระแสได้ยาวนานหลายวัน หลายสัปดาห์ หรือแม้แต่หลายปี

ท้ายที่สุด คุณต้องการให้งานของคุณ “มีชีวิตต่อ” หลังจบงาน และการกระตุ้นปฏิกิริยาทางอารมณ์ที่เข้มข้นคล้ายกัน คือวิธีที่ยอดเยี่ยมในการสร้างการเชื่อมโยงผ่านคอนเทนต์

การออกแบบของคุณตั้งใจเช่นนั้นหรือไม่?

มันทำงานหนักพอที่จะตราตรึงผู้เข้าร่วมหรือยัง?

หากคำตอบคือยัง หรือไม่แน่ใจ ลองคิดว่าคุณจะสื่อสารและมีอิทธิพลต่ออารมณ์ของผู้เข้าร่วมผ่านการเล่าเรื่องได้ดีกว่าเดิมอย่างไร

เรายินดีช่วยคุณทำสิ่งนั้น!

ทีมCreative Services ของเราคิดใหญ่เสมอในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่สร้างแรงบันดาลใจ ขยายพลังของคอนเทนต์ผ่านการสร้างแบรนด์และการออกแบบงานอีเวนต์เชิงกลยุทธ์ และเอื้อให้เกิดการเชื่อมโยงที่มีเป้าหมายซึ่งทำให้โปรแกรมโดดเด่น

อยากชมความสามารถของเราล่วงหน้าไหม ลองดูตัวอย่างคอนเทนต์ชวนติดตามที่เราสร้างให้การประชุมพิเศษ 3 วันของ Marriott International สำหรับผู้จัดการทั่วไป ที่ออกแบบประสบการณ์เฉพาะสำหรับพวกเขา!

มาร่วมมือกันนำกลยุทธ์คอนเทนต์เหล่านี้เข้าไปในกระบวนการวางแผนของคุณ เพื่อสร้างโปรแกรมที่ตรึงผู้เข้าร่วม และขยายการเข้าถึงสารของคุณให้ยาวไกลไปในอนาคต